เรื่องจริงของพระภิกษุนักปฏิบัติธรรมผู้สละโลกซึ่งสลัดกามราคะอันเปรียบเสมือนเลือดในอกของสัตว์ทั้งหลาย
ที่มาภาพ : วิกิพีเดีย
โดย ชุนคำ จิตจักร
....................................................
“ดิฉัน เคยนอนที่เตียงนี้ เป็นตียงสุดท้าย”
พอบอกอย่างนี้แล้วเธอก็เดินไปทางหน้าต่าง พอเดินไปถึงหน้าต่างแล้ว...เธอก็ลอย...
.....................................................
ขึ้นชื่อว่ากามราคะย่อมเป็นสิ่งที่ละได้ยาก ในเรื่องนี้ พระอาจารย์สุทัศน์ โกสโล แห่งวัดกระโจมทอง ต.วัดชะลอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ท่านเคยกล่าวแสดงธรรมไว้ว่า ..กามราคะนั้นเหมือนเลือดในอกสัตว์ เป็นสิ่งที่ฝังแน่นอยู่ในสันดานของสัตว์ทั้งหลาย แม้ว่าพระภิกษุสงฆ์ผู้พอใจในการหลีกออกจากกาม ยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์มุ่งหวังที่จะกระทำให้ถึงที่สุดแห่งความแจ้งทุกข์พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร กามราคะในสันดานนั้นก็จะติดตามพัวพันให้เร่าร้อนจนถึงที่สุด แม้ว่าจะคลายความยินดีในรูปกายที่หยาบก็ยังสามารถล่อลวงให้ยินดีในรูปที่ละเอียดยิ่งขึ้น มีการหน่วงรั้งด้วยอำนาจของกระแสกรรมและความผูกพันอันเนื่องมาจากเหตุปัจจัยในอดีต ดังเช่นเรื่องที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้
ชีวิตการปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์สุทัศน์ในครั้งหนึ่งได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศอินเดีย ไปสักการบูชาและปฏิบัติบูชาในพุทธสถาน หลังจากนั้นก็ได้เดินทางเข้าไปในปากีสถานและอัฟกานิสถานซึ่งในระหว่างที่เข้าไปนั้นได้ประสบกับเรื่องที่ลี้ลับมหัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พบได้เห็นมาก่อน ในการไปครั้งนี้ ท่านร่วมเดินทางไปกับพระอาจารย์เสน่ห์ พระอาจารย์รุ่งเรือง และคณะทัวร์ซึ่งมีญาติโยมกลุ่มหนึ่งเดินทางไปด้วยกัน
ท่านเพิ่งจะฟื้นจากอาการไข้หนักในตอนที่อยู่อินเดีย พอเข้ามาถึงเมืองปีชะว่อที่ปากีสถาน ทั้งหมดก็ได้เข้ามาพักที่โรงแรมเรนโบว์อันเป็นโรงแรมที่ใหญ่โตโอ่อ่ามีบริการพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกสบายทุกอย่าง แต่พอมาถึงที่นี่ท่านก็มีไข้อีก
พระอาจารย์สุทัศน์ท่านรู้สึกเกรงใจผู้ร่วมคณะและก็เห็นว่าอากาศที่อัฟกานิสถานนี่หนาวมากเกรงว่าความเจ็บป่วยของท่านจะเป็นเครื่องถ่วงคณะท่องเที่ยวซะเปล่าๆก็เลยขอตัวพักรอ อยู่ที่โรงแรมเรนโบว์นี้ คณะผู้เดินทางก็ปรึกษากันยังไม่มีการลงความเห็นว่าจะเอายังไง
ห้องบนชั้นสูงของโรงแรมที่ท่านพักนั้นเขาจัดไว้อย่างสวยหรู มีเตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ เตาผิง สุขภัณฑ์ และของใช้ต่างๆอำนวยความสะดวกมากมาย ขณะที่พระอาจารย์สุทัศน์กำลังนอนพักผ่อนร่างกายอยู่นั้นก็ได้มองสำรวจพิจารณาไปรอบๆ สักครู่หนึ่งก็คล้ายๆมีใครปรากฏตัว เป็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอก้าวช้าๆ ก้าวเข้ามา ก้าวเข้ามา.. ..ท่วงท่าเดินสุขุมนุ่มนวลสง่างามมาก เธอสวมชุดส่าหรีพลิ้วไสวรับกับรูปร่างที่งดงามสมส่วนไม่มีที่ติ แต่ดูเหมือนว่าท่านจะเห็นอยู่คนเดียว
..ดวงหน้าของเธอ... ...สวยมาก.. ช่างเป็นดวงหน้าที่มีความสวยงามเป็นเลิศสุดที่จะบรรยายได้จริงๆ... ในชีวิตที่ผ่านมาของพระอาจารย์สุทัศน์ก็พอจะเคยได้พบเห็นผู้หญิงที่คนเขายอมรับกันว่า สวยที่สุด งามที่สุด ก็มีไม่น้อยเลย แต่เมื่อได้เห็นผู้หญิงคนนี้แล้ว บอกได้อย่างมั่นใจที่สุดเลยว่า ผู้หญิงทุกคนที่เคยเห็นมาแล้วในชั่วชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่มีใครเลยที่จะมีความสวยงามเท่าผู้หญิงคนนี้..
เธอเดินช้าๆ เดินตรงมาที่เตียงซึ่งท่านนอนอยู่ สีหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความมีไมตรี พอมาถึงก็ค่อยๆก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูของท่าน เสียงกระซิบนั้นเป็นภาษาพื้นเมืองที่ท่านฟังไม่รู้เรื่อง แต่การรับรู้ทางจิตซึ่งได้รับการฝึกฝนมาทำให้ท่านสามารถรับรู้ความหมายจากคำพูดของเธอได้ทุกคำซึ่งถ้าจะแปลเป็นคำพูดภาษาไทยก็จะแปลว่า
“ดิฉัน เคยนอนที่เตียงนี้ เป็นตียงสุดท้าย”
พอบอกอย่างนี้แล้วเธอก็เดินไปทางหน้าต่าง พอเดินไปถึงหน้าต่างแล้ว...เธอก็ลอย ...ร่างสวยสง่าของเธอก็ลอยพลิ้วไสวลงทางหน้าต่างอย่างสวยงาม..
พอร่างของเธอลับสายตาไป พระอาจารย์สุทัศน์ก็ถามพระอาจารย์เสน่ห์และพระอาจารย์รุ่งเรืองที่ดูแลอยู่ว่า
“เมื่อกี้ เห็นผู้หญิงสวยๆที่เข้ามาพูดอะไรรึเปล่า”
“ไม่เห็น ไม่เห็นมีใครเข้ามาในห้องนี้เลย”
ทั้งสองท่านตอบยืนยันเหมือนกัน
ไม่มีใครเข้ามาแต่ทำไมอาจารย์สุทัศน์เห็น เห็นคนเดียว ทั้งสองท่านที่ดูแลก็เริ่มกังวลว่าพระอาจารย์สุทัศน์นี้เห็นทีจะอาการหนักเพราะเริ่มจะเพ้อเห็นอะไรต่อมิอะไรแล้ว อาการแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยจะรอด
แต่ว่าเรื่องที่น่าประหลาดก็คือพระอาจารย์สุทัศน์นอนพักผ่อนอยู่ไม่นานก็กลับลุกขึ้นเดินเหินอย่างมีกำลังวังชาเหมือนคนปกติ อาการป่วยหายไปเหมือนปลิดทิ้ง พอให้หมอตรวจดูอาการก็ปกติดีทุกอย่าง เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเหลื่อเชื่อซึ่งญาติโยมที่ไปต่างก็ถึงกับงงไปตามๆกัน แต่ทุกคนก็ยินดีที่ท่านสามารถร่วมเดินทางเข้าไปในอัฟกานิสถานด้วยกัน ไม่ต้องนอนรออยู่ที่นี่อีกต่อไป
ทั้งหมดได้เดินทางจากเมืองปีชะว่อ ประเทศปากีสถานเข้าไปในอัฟกานิสถานโดยทางรถยนต์ ในตอนเช้าที่รถแล่นเข้าไปในทางช่องแคบไฟเบอร์จะเห็นวิวสวยมาก แม้ว่าขณะนั่งอยู่ในรถจะได้รับความอบอุ่นจากเครื่องปรับอากาศ แต่ก็รู้ดีว่าด้านนอกสองข้างทางนั้นมีแต่ความหนาวเหน็บ เกล็ดหิมะขาวโพลนปกคลุม ป่าไม้ โขดผา และเนินเขาสลับซับซ้อน แสงทองยามเช้าส่องต้องเกล็ดหิมะดูระยิบระยับไปหมด เส้นทางนี้จะเลียบไปตามสันเขาที่คดโค้งก่อนจะทอดยาวผ่านที่ราบกว้างมุ่งเข้าไปสู่เมืองกาบูร์
เมืองกาบูร์เป็นเมืองที่แลดูสะอาดตา ตึกรามบ้านช่องอันสวยงามดูเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกหนทุกแห่งถูกปกคลุมด้วยหิมะ อากาศเย็นจัดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ตอนที่ลงจากรถยนต์กำลังจะต่อแท็กซี่ไปที่โรงแรมนั้นเด็กขนของที่มาด้วยก็เกิดทะเลาะกับแท็กซี่ เด็กนั่นเอาเท้าปิดประตูแท็กซี่ดังปัง เจ้าแขกโชเฟอร์ก็ฉุนฉียวมากตรงเข้าไปเล่นงานเด็กคนนั้นจนเกิดตะลุมบอนกันขึ้นมา หลายๆคนก็เป็นห่วงเด็กก็ส่งเสียงดังตะโกนว่า
“...แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ เก่งที่สุด..”
ที่ร้องอย่างนั้นก็เพราะว่าจะให้แขกกลัว เพราะตอนนั้น แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ หรือว่า “ไอ้แสบ” ของไทยนี่ดังมากจนเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก พอตำรวจมาก็เลิกทะเลาะกัน ตำรวจยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่ามีเรื่องกันและคงเข้าใจว่าเขาพากันมามุงดูพระภิกษุเพราะไม่ค่อยจะได้พบเห็นกัน
ช่วงที่เหตุการณ์สงบลงแล้วนั้นพระอาจารย์สุทัศน์เหลือบไปเห็นแท็กซี่คันหนึ่งมาจอดอยู่ไม่ไกลนัก ..ใครคนหนึ่งกำลังเปิดประตูก้าวลงมาจากรถ ผู้หญิงคนนั้นเอง.. ผู้หญิงสวยที่เคยมากระซิบกับท่านที่โรงแรมเรนโบว์ในปากีสถาน เธอหันหน้ามายิ้มให้แล้วก็เดินไป เป็นไปได้อย่างไร ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้บังเอิญเดินทางมาทางเดียวกัน อยากจะบอกคนอื่นก็กลัวว่าเขาไม่เห็นเดี๋ยวจะไม่เข้าใจและคิดว่าท่านเพ้อไปแล้วจะเป็นห่วง
โรงแรมในกรุงกาบูร์ที่ได้มาพักผ่อนนี้ก็เป็นโรงแรมชั้นดีมีบริการสะดวกสบาย ทุกคนเข้าพักที่นี่คืนหนึ่งเพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่บาบิยันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ในช่วงนี้พระอาจารย์สุทัศน์สุขภาพดีพอนอนพักได้คืนหนึ่งแล้วตอนเช้าก็นึกอยากจะอยู่คนเดียวเลยหลบมานั่งอยู่ที่ห้องล็อบบี้ของโรงแรม
สักครู่หนึ่งก็เหลือบไปเห็น.. เห็นผู้หญิงคนนั้นอีก ไม่รู้ว่าเดินมาจากไหน ในมือประคองถ้วยกาแฟเดินเข้ามาหาอย่างมีมารยาท พอมาถึงก็วางถ้วยกาแฟลงตรงหน้าท่านเหมือนว่าจะถวายให้ท่านดื่มแล้วก็เดินออกไปจนหายลับไปทางอีกด้านหนึ่งของโรงแรม
พระอาจารย์รุ่งเรืองเป็นห่วงก็ตามมาจนเจอก็ทักว่า
“แหม นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็แอบมาฉันกาแฟนี่เอง”
พระอาจารย์สุทัศน์ก็ไม่รู้จะอธิบายให้ฟังอย่างไร ดูจากท่วงทีกิริยามารยาทและรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนี้ก็สวยงามเกินกว่ามนุษย์ธรรมดา แต่ถ้าเธอเป็นวิญญาณที่ปรากฏให้เห็นแล้วทำไมแก้วกาแฟก็ยังเห็นตั้งอยู่ตรงหน้า กาแฟก็ยังร้อนกรุ่นอยู่ซึ่งพระอาจารย์รุ่งเรืองก็เห็น ท่านก็ไม่ได้ฉันกาแฟถ้วยนั้นเพราะท่านถือตามพระวินัยคือจะไม่ฉันของที่ไม่ได้ประเคนถวาย
เช้านั้น ก็ออกจากโรงแรมที่เมืองกาบูร์พากันหอบหิ้วสัมภาระไปขึ้นรถบัสซึ่งจะพาไปเที่ยวที่บาบิยัน ทุกคนก็รู้ว่าอากาศหนาวแสนหนาวแต่ก็ตั้งใจว่าจะไปชมความหัศจรรย์ที่นั่นให้ได้ ตอนขึ้นรถเด็กขนของก็ทำท่าว่าจะทะเลาะกับแขกอีกเพราะเรื่องแย่งที่นั่งกันทางพระก็เลยไปช่วยห้ามแล้วสอนว่า
“เราเป็นชาวพุทธ ต้องรู้จักเสียสละ”
เด็กนั้นก็เชื่อเรื่องจึงสงบลง
พระอาจารย์สุทัศน์นั่งอยู่ในรถมองออกไปสองข้างทางเห็นมีแต่หิมะ กวาดสายตาสำรวจคนในรถเห็นผู้ร่วมทางมีหน้าตาผิวพรรณและการแต่งกายที่ดูแตกต่างกันไป พอมองไปทางเบาะอีกด้านหนึ่งก็เห็นผู้หญิงคนนั้นสวมเสื้อคลุมยาวเอาผ้าโพกหัวและคลุมหน้าด้วยผ้าบางๆ ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว..
ท่านจำได้ มองจากอากัปกิริยาแล้วคิดว่าต้องใช่แน่นอน ด้วยความเคยชินที่เป็นพระปฏิบัติกรรมฐานก็จะเหลือบมองแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้นแต่ในใจก็ยังคงคิดอยู่ว่าอยากจะดูหน้าให้ชัดๆอีกสักทีเหมือนกัน เธอเป็นใครทำไมถึงบังเอิญพบอยู่เรื่อย พบที่ปากีสถาน พอมาถึงอัฟกานิสถานก็มาถึงพร้อมๆกัน พักในโรงแรมเดียวกัน พอไปบาบิยันก็ไปรถคันเดียวกันอีก นึกๆไปก็อยากดูให้ชัดๆก็เลยค่อยๆเหลือบไปมอง
เหมือนกับรู้ใจ.. ผู้หญิงคนนั้นก็หันมาแล้วค่อยๆเอื้อมมือเปิดผ้าคลุมหน้าบางๆนั้นออกให้ดูหน้า.. ใช่แล้ว.....ชัดเจนที่สุด.. ดวงหน้าที่มีความงามเป็นเลิศ.. เธอมองมาที่ท่าน ยิ้มให้ท่านอย่างหยาดเยิ้ม..
พระอาจารย์สุทัศน์ถอนสายตากลับมาทันที คิดอยู่ว่าทำไมนะคนอื่นถึงไม่เห็น เธอมีจุดประสงค์อะไร ดูเหมือนว่าท่านเริ่มจะเข้าใจอะไรได้รางๆจากแววหยาดเยิ้มของดวงตาคู่นั้น
เมื่อพบกันครั้งแรกแล้วก็ลอยพลิ้วลงจากหน้าต่างเหตุการณ์ก็บอกชัดอยู่แล้วว่าเธอไม่ใช่คน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับท่านเพราะว่าการที่ผู้ฝึกปฏิบัติกรรมฐานมักจะเห็นวิญญาณต่างๆก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เรื่องที่น่าคิดก็คือเรื่องของกรรมที่ทำให้มีวาระที่จะต้องได้มาพบกัน เมื่อเธอแสดงไมตรีออกมาอย่างผูกพันลึกซึ้งอย่างนี้ ด้วยจิตประดิพัทธ์รักใคร่ตามวิสัยของผู้ใฝ่หากามราคะอย่างนี้ มันก็สุดวิสัยที่สมณะผู้มุ่งสละโลกจะสนองตอบเธอได้
เมื่อไปถึงบาบิยัน ทุกคนก็ตื่นเต้นกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกคือภูเขาใหญ่ทั้งลูกถูกสลักเสลาให้เป็นพระปฏิมาสวยงามมากเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า น่าอนุโมทนากับผู้ที่มีความพากเพียรพยายามในการก่อสร้างยิ่งนัก ที่ด้านหลังขององค์พระนั้นจะเป็นแนวภูเขาเจาะเป็นถ้ำได้แปดถ้ำ ไม่ได้ประดิษฐานอะไรไว้แต่ก็สันนิษฐานว่าคงตั้งใจจะสร้างเพื่อประดิษฐานพระอรหันต์แปดทิศนั่นเอง อากาศที่นี่หนาวมาก ระดับหิมะสูงท่วมหัวเข่าม้าเย็นเฉียบจับกระดูกแต่ทุกคนก็ปลื้มปิติจนลืมความหนาว พากันไปหอบเอาหิมะมาก่อเป็นเจดีย์เป็นพุทธบูชา
พระอาจารย์สุทัศน์ทอดสายตายาวไกลมองเลยผ่านไปด้านหลังองค์พระปฏิมา ..ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ที่นั่นคนเดียว
ที่นี่ไม่มีโรงแรม จะมีก็แต่ที่พักข้างทางเท่านั้น พอค่ำลงต้องพากันก่อกองไฟ แม้แต่กิ่งไม้แห้งก็มีราคาเอามาชั่งกิโลขายซึ่งคนซื้อก็จำเป็นต้องซื้อ
พระอาจารย์สุทัศน์ได้พิจารณาทบทวนเกี่ยวกับการมาปรากฏตัวของวิญญาณหญิงสวยผู้นี้ด้วยสติปัญญาแล้วจึงได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะขออโหสิกรรมต่อเธอจะได้ไม่ต้องผูกพันกันแบบนี้อีกต่อไป ท่านจึงได้สำรวมจิตให้เป็นสมาธิแล้วบอกกล่าวกับดวงวิญญาณของเธอไปว่า
“.....ถ้าหากอาตมาเคยมีเวรกรรมผูกพันกับเธอมาก่อนก็ขอให้หมดเวรหมดกรรมกันในชาตินี้เถิด แม้นหากกุศลใดได้เกิดขึ้นแล้วจากการที่อาตมาได้อุทิศตนบวชในพระพุทธศาสนา ได้เจริญภาวนาเพื่อให้ถึงซึ่งความสิ้นไปแห่งทุกข์ ขอให้เธอจงมีส่วนได้รับกุศลผลบุญนั้น ขอจงตั้งจิตน้อมอนุโมทนาแล้วรับเอาส่วนบุญส่วนกุศลเพื่อประโยชน์สุขแห่งตนและอย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย.....”
นับตั้งแต่วันที่ได้ตั้งจิตขออโหสิกรรมต่อวิญญาณของผู้หญิงคนนี้แล้วก็ไม่เคยพบเห็นว่าเธอมาปรากฏตัวอีกเลย ก็น่าแปลกที่ว่า ร่างกายของท่านกลับอ่อนแอลง มีอาการไออยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่เดินทางกลับจาก...บาบิยัน..
ผลงานของ : ชุนคำ จิตจักร
ลงพิมพ์ในนิตยสารมหามงคล ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 พ.ศ.2553
พระพุทธรูปแห่งบาบิยัน วิกิพีเดีย
หุบเขาบาบิยัน http://board.postjung.com/558970.html
พระพุทธรูปแห่งบาบิยัน วิกิพีเดีย
หุบเขาบาบิยัน http://board.postjung.com/558970.html
1 ความคิดเห็น:
3 titanium bikes, with great design
3 titanium bikes for beginners to bicycle. - used ford escape titanium - titanium piercings All bikes, columbia titanium pants with titanium boiling point great titanium belly rings design
แสดงความคิดเห็น